ผ่านกันมาหลายเดือนทีเดียวที่ไม่ได้มาพูดคุยกัน ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้มาทำงานร่วมกันในเรื่อง " พลังงาน " หัวข้อนี้มีความกว้างมากในเรื่องการหยิบจับประเด็นและนี่ก็เป็นเรื่องที่พบกันอยู่ทุกวันเช่นเคย เมื่อปิดเทอมทีผ่านมาผมได้มีโอกาสไปเที่ยวเขาใหญ่มาเราได้รู้ว่าเทคโนโลยีและความเจริญต่างนั้นได้เข้าถึงแล้ว สัตว์ป่าบ้างประเภทออกมาหากินนอกป่าอาจจะมาจากอาหารไม่พอหรือไม่ก็อาหารของคนอร่อยกว่า แต่สิ่งที่แน่นอนนั้นคือธรรมชาติต้องเปลี่ยนแปลงตัวมันตามภาวะที่ได้รับผลมาจากมนุยษ์เรานั้นเอง และเมื่อเราหันกลับมาดูตนเองแล้วเราใช้สิ่งของต่างๆไปมากมายจากธรรมชาติเพื่อมาเป็นพลังงานทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อผลผลิตต่างทางอุตสาหกรรม ที่เป็น " วงจรปิด " ไม่ได้ ย้อนคืนสิ่งสุดท้ายให้แด่ธรรมชาตืเช่นก่อนเก่า ดังนั้นสิ่งที่ผมเห็นคือการบอกเล่าเรื่องต่างๆที่เราได้มาจากธรรมชาติอย่างง่ายๆ เช่นกระดาษที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มันถูกใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย มากเกินพอดีถ้าเราย้อนกลับไปดูมันว่าจุดเริ่มต้นของมันมาจากไหนเราก็จะเห็นอย่างเด่นชัดว่ามันมาจากต้นไม้หนึ่งต้นแล้วถ้าเราต้นไม้หนึ่งต้นออกจากป่าดยเราไม่ปลูกกลับคืนก็เหมือนกับการฆ่าสัตว์ต่างทางอ้อมและเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราเองเป็นคนทำลายธรรมชาติทางอ้อมนั้นเอง ผมคิดว่าถ้าเราลองมาเปรียบเปรยโดยการพับกระดาษเป็นรูปต้นไม้และสัตว์ต่างๆแล้ว นั้นแหละคือเลือดเนื้อของมันจริงๆ ถ้าเรายังจะใช้สิ่งของต่างๆอย่างนี้อยู่หรือเปล่า ?? และนี้ก็เป็นประเด็นของครั้งนี้นั้นเองครับ
< แค่กระดาษหนึ่งแผ่น แค่ต้นไม้หนึ่งต้น แค่สัตว์ป่าหนึ่ง ต่อไปอาจจะ แค่คนหนึ่งคนที่ต้องตายเพื่อความต้องการ ?? >